บทความ

5 ความคิด…

5 ความคิดทางการเงินที่ดีเพื่อความสำเร็จ

       ความคิดที่ดีทางการเงิน คือ การใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดในการประหยัดเงินและการลงทุน การพัฒนาความคิดด้านการเงิน ช่วยให้สามารถมีสติ เพื่อสร้างและพัฒนาทักษะการบริหารจัดการทางการเงินให้ประสบความสำเร็จ

1.ความคิดทางการเงินไม่ดี ก็ไม่มีเงิน ควรมีพัฒนาความคิดและความรู้ตลอดเวลา การขาดความคิดทางการเงินอาจเป็นสาเหตุของความล้มเหลว ในการเริ่มต้นชีวิตได้ ควรสร้างความคิดทางการเงินที่ดีต่อสุขภาพการเงินก่อน ให้มีความมั่นคงในการดำเนินการบางอย่าง เพื่อพัฒนากรอบความคิดทางการเงินที่ดีต่อไป

2.ศึกษาหาความรู้หลักสูตรทางการเงิน การหาความรู้จากหนังสือทางการเงินประกอบหลักแนวคิด เกี่ยวกับทางการเงิน ทักษะพื้นฐานทางการเงินและปัจจัยทางจิตวิทยา มันส่งผลให้พฤติกรรมทางการเงินที่ดี รวมถึงการเรียนรู้จากประสบการณ์ ช่วยสร้างความคิดทางการเงินได้ หรือการเรียนหลักสูตรทางการเงินเพิ่ม สามารถช่วย ในการพัฒนาความคิด และมีความเข้าใจมากขึ้น เช่น การหารายได้เพิ่มจากการวางแผนทางการเงิน หรือรายได้เพิ่มจากการลงทุน เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงิน

3.ปรึกษาและขอคำแนะนำผู้รู้ แนวทางในการพัฒนาความคิดทางการเงินของคุณ อาจจะอาศัยประสบการณ์ทางการเงินที่หลากหลาย ในการหาที่ปรึกษา ทางการเงิน กับ กลุ่มกูรูทางการเงิน อาจารย์ เพื่อน ญาติและคนรู้จัก มุ่งเน้นไปที่คนที่คุณรู้ว่าใครประสบความสำเร็จทางการเงินโดยขอคำแนะนำจากพวกเขา อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี นอกจากนั้นยังศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มุ่งเน้นไปที่การศึกษาทางการเงิน อาจให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาได้

4.หาเวลาใส่ใจอ่านมากขึ้น มุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ทางการเงินและการวางแผน เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงและผลประโยชน์ในขณะที่คุณตัดสินใจ แหล่งข้อมูลเหล่านี้สามารถพบได้ในแหล่งข้อมูลออนไลน์ หนังสือและเอกสารการวิจัย และเว็บไซต์ต่างๆ เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อเมซอน ซึ่งมีรายการทางการเงินและหนังสือการเงินใหม่ บทวิเคราะห์ เป็นประจำที่สามารถให้ความคิดที่หลากหลายเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญ ทางการเงิน นอกจากนั้นบทความ เนื้อหาวิดีโอ E-Learning ให้การวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและเคล็ดลับที่มีค่าที่สามารถ ให้มุมมอง ที่มีการศึกษามากขึ้น ช่วยค้นหาวิธีการฝึกความคิดทางการเงิน การประเมินผลกระบวนการฝึกฝน และประเมินผลให้ บทเรียนที่จำเป็น เพื่อกำหนดรูปแบบทางการเเงินของคุณได้ด้วยตนเอง

5.เปลี่ยนตามความคิดที่เปลี่ยนไป เพียงจำไว้ว่าความคิดทางการเงินจะใช้เวลาในการพัฒนาและมีความพยายามมากเท่าไหร่ก็ยิ่งพัฒนามากขึ้น คุณก็จะได้รับผลตอบแทนมากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินใจเรื่องเงินนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แน่นอน ในที่สุดคุณอาจเห็นแนวคิดความเฉียบแหลม ทางการเงินที่กำลังเติบโตของคุณ และกำลังเริ่มปรับฐานะทางการเงินของคุณให้ดีขึ้นได้ และประสบความเร็จทางการเงิน มีความมั่งคั่ง มั่นคงตลอดไป

บทความ

รถแบบไหนไ…

รถแบบไหนได้ราคาประเมินดี

        สิ่งที่เจ้าของรถหลายคนให้ความสำคัญคือการดูแลสภาพและสมรรถนะของรถยนต์ให้ดีอยู่เสมอเพื่อคงมูลค่าของรถไว้ซึ่งสะท้อนได้จากราคาประเมินรถ เพราะการที่รถมีราคาประเมินสูงจะทำให้ขายได้ราคาดีขึ้นเมื่อต้องการขายหรือนำรถไปเทิร์นเพื่อเปลี่ยนเป็นรถคันใหม่ รวมทั้งกรณีที่ต้องการขอสินเชื่ออย่างสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ก็จะมีโอกาสได้รับวงเงินอนุมัติที่สูงขึ้นอีกด้วย
       แม้ว่าราคาประเมินรถสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามภาวะตลาด แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาประเมิน ซึ่งคุณสามารถใช้ปัจจัยเหล่านี้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกรถเพื่อเพิ่มโอกาสทำให้รถได้ราคาประเมินที่สูงขึ้น โดยมีปัจจัยดังนี้

แบรนด์และรุ่นรถที่ติดตลาด 
       ยี่ห้อที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ และรถรุ่นที่คนให้ความสนใจเยอะ มักมีราคาประเมินสูงกว่า เนื่องจากสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้คล่องกว่า

อายุและเลขไมล์
        รถที่เพิ่งซื้อมาไม่นานและรถที่มีเลขไมล์น้อยมักได้ราคาประเมินที่ดีกว่า เพราะหมายถึงรถผ่านการใช้งานมาน้อย สภาพรถและเครื่องยนต์ก็จะไม่ช้ำและยังไม่เสื่อมสภาพมากนัก  สามารถนำไปใช้งานต่อได้นานกว่า

การดูแลและบำรุงรักษารถ
         การบำรุงรักษารถให้อยู่ในสภาพดีและมีประวัติการนำรถเข้าศูนย์อย่างสม่ำเสมอเป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้รถได้ราคาประเมินดี

รถประวัติดี
         หากรถเคยมีการขับชน พลิกคว่ำ หรือมีอุบัติเหตุรุนแรง แม้สภาพภายนอกจะซ่อมให้กลับมาสวยงามได้ แต่มักทำให้เกิดข้อกังวลถึงประสิทธิภาพเครื่องยนต์หลังผ่านการซ่อม ดังนั้นรถที่ไม่มีประวัติชน หรือประวัติการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจึงมีราคาประเมินที่ดีกว่า

อ็อปชันเสริมและการอัปเกรด
         หลายคนอาจคิดว่าการเพิ่มอ็อปชันเสริมจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับรถได้ แต่ความจริงกลับตรงข้าม เพราะอุปกรณ์เสริมส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกนำมาคิดในการประเมินราคารถ ยิ่งกว่านั้นการดัดแปลงหรือปรับแต่งรถควรทำด้วยความระมัดระวัง เพราะบางอย่างอาจมองว่าเป็นผลเสียต่อรถแทนที่จะเป็นผลดี และทำให้ราคาประเมินต่ำลงก็เป็นได้

สภาพภายในและภายนอกรถ
          ควรดูแลให้สภาพรถทั้งภายในและภายนอกอยู่ในสภาพดี ทั้งความสะอาดเรียบร้อยและควรซ่อมแซมร่องรอยการชนหรือรอยขีดข่วนให้เรียบร้อย เพราะร่องรอยบางอย่างอาจยิ่งซ่อมยากขึ้นหากปล่อยไว้นานเกินไป

หาศูนย์หรือร้านซ่อมได้ง่าย
          ควรเลือกยี่ห้อหรือรุ่นรถที่หาศูนย์หรือร้านซ่อมได้สะดวกหากรถเกิดการชำรุดหรือเสียหาย เพราะความยากง่ายในการซ่อมและการหาอะไหล่มาเปลี่ยนก็เป็นอีกเรื่องที่ส่งผลต่อราคาประเมินรถด้วยเช่นกัน เพราะรถที่หาร้านซ่อมยากหรือต้องรอซ่อมนานย่อมหมายถึงการเสียเวลาและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

      ได้รู้ปัจจัยที่มีผลต่อราคาประเมินรถกันแล้ว ก็อย่าลืมพิจารณาสิ่งเหล่านี้ก่อนตัดสินใจซื้อรถ เพราะรถเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ชีวิตเราได้ ดังนั้นการเลือกรถที่มีราคาประเมินดีย่อมหมายถึงการเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจหรืออาชีพเสริมในอนาคตสำเร็จไปได้ไกลกว่าเดิม

บทความ

ประกันชีว…

ประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อคืออะไร?

       ประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ คือ ประกันชีวิตที่คุ้มครองผู้ขอสินเชื่อตามวงเงินที่กู้ และตามระยะเวลาสินเชื่อนั้น ๆ โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินกู้ที่เหลืออยู่ตามที่ระบุในหนังสือรับรองการประกันภัย หากผู้ทำประกันเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรจากอุบัติเหตุ จนไม่สามารถประกอบอาชีพหรือผ่อนสินเชื่อต่อได้

       แต่เดิมนั้น การทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อนิยมทำในกรณีที่วงเงินสินเชื่อค่อนข้างสูงและมีระยะเวลาการผ่อนชำระที่นาน อย่างการกู้ซื้อบ้าน ที่ดิน หรือสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามาก เนื่องจากมีระยะเวลากู้หลายสิบปี และมีความเสี่ยงที่ผู้กู้จะเสียชีวิต หรือทุพพลภาพไปก่อนที่จะปิดบัญชีสินเชื่อนั้น ๆ ได้ แต่ในปัจจุบันสินเชื่อส่วนบุคคลอื่น ๆ ก็สามารถซื้อประกันชีวิตรูปแบบนี้ไว้คุ้มครองได้ ทั้งสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อรถยนต์ แม้จะเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลาการกู้ยืมที่สั้น ไม่ถึง 10 ปี แต่ก็เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการหลักประกันและสร้างความอุ่นใจมากยิ่งขึ้น

สิทธิประโยชน์เเละความคุ้มครองมีอะไรบ้าง?

      สำหรับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ จะให้ความคุ้มครองใน 2 กรณี คือ 1. เสียชีวิต 2. สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรจากอุบัติเหตุ ซึ่งทั้งสองกรณีทำให้ผู้กู้ไม่มีศักยภาพที่จะชำระหนี้ได้

      ในกรณีที่ผู้กู้เสียชีวิต จะคุ้มครองทุกกรณีไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย หรือสาเหตุใดก็ตาม โดยจะได้รับความคุ้มครองตามเงินประกันที่ลดลงตามตารางการผ่อนชำระ แต่ในกรณีที่ผู้กู้ได้ผ่อนชำระเกินกว่าที่สถาบันการเงินกำหนด เพื่อลดต้นลดดอก ผู้รับผลประโยชน์หรือทายาทก็จะได้รับเงินส่วนต่างตรงนี้ด้วยเช่นกัน

      ในกรณีสูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรจากอุบัติเหตุ ทางบริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยตารางรางรายการทดแทน เช่น กรณีสูญเสียมือหรือเท้า 2 ข้าง โดยตัดตั้งแต่ข้อมือหรือข้อเท้า หรือสูญเสียสายตาทั้ง 2 ข้าง โดยไม่มีทางรักษาให้หายได้ จะได้รับความคุ้มครอง 100% ของวงเงินเอาประกันภัยให้กับสถาบันการเงินเพื่อชำระหนี้สินคงค้าง และส่วนที่เหลือ (ถ้ามี) ให้กับผู้รับผลประโยชน์หรือทายาทด้วยเช่นกัน

บทความ

เรื่องต้อ…

เรื่องต้องรู้ ก่อนเป็นผู้ค้ำประกัน

      ในปัจจุบัน หากจะทำสัญญาเงินกู้ หรือขอสินเชื่อต่างๆ สถาบันการเงินบางแห่ง ต้องการเพิ่มความมั่นใจในตัวลูกหนี้มากขึ้น จึงกำหนดให้มี “ผู้ค้ำประกัน” เข้ามาค้ำประกันหนี้ที่ลูกหนี้ทำสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินนั้นๆ เพราะอย่างน้อยหากลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้ก็ยังมีผู้ค้ำประกันคอยรับผิดชอบอยู่

      ฉะนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเซ็นค้ำประกันให้ใครจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการค้ำประกันนั้นๆ อย่างละเอียดเสียก่อน เพราะการค้ำประกันสามารถพลิกชีวิตใครหลายๆ คน ให้กลายเป็นหนี้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว แม้จะเป็นการค้ำประกันให้คนรู้จัก หรือญาติพี่น้อง แต่ถ้ามีการผิดนัดชำระหนี้ คุณเองนั่นแหละที่จะต้องแบกรับภาระหนี้แทน 

       ผู้ค้ำประกัน คือ บุคคลหนึ่งทำสัญญากับเจ้าหนี้ว่า จะชำระหนี้แทนลูกหนี้เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้

ค้ำประกันอย่างไรให้ปลอดภัย

1. ดูรายละเอียดสัญญาเงินกู้ ว่า ระบุจำนวนเงินกู้ไว้เป็นจำนวนเท่าใด และมีทรัพย์สินอื่นๆ เป็นประกันหนี้ด้วยหรือไม่ เพราะผู้ค้ำประกันจะต้องเข้าไปค้ำประกันหนี้ของลูกหนี้ตามสัญญาเงินกู้ดังกล่าว

2. สัญญาค้ำประกันต้องทำเป็นหนังสือ และลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกัน

3. ควรอ่านสัญญาค้ำประกันให้ละเอียดและครบถ้วนก่อนเซ็นค้ำประกัน

ขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกัน

1. ผู้ค้ำประกันจะรับผิดแทนลูกหนี้ ต่อเมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ตามที่ตกลงในสัญญาเงินกู้เท่านั้น

2. หากเจ้าหนี้ลดหนี้ให้ลูกหนี้เท่าไร ความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกันก็ลดลงเท่านั้นเช่นกัน และถ้าลูกหนี้ชำระหนี้ที่ลดลงไม่ครบถ้วน ผู้ค้ำประกันชำระส่วนที่เหลือ หรือถ้าลูกหนี้ไม่ชำระเลยแล้วผู้ค้ำประกันชำระหนี้ตามที่ลดลงครบถ้วน ผู้ค้ำประกันก็หลุดพ้นจากการค้ำประกัน

3. หากมีข้อตกลงในสัญญาค้ำประกันเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ค้ำประกันมากกว่าที่ระบุในข้อ 2. ข้อตกลงนั้นจะเป็นโมฆะ

4. ผู้ค้ำประกันจะหลุดพ้นจากความรับผิด เมื่อยื่นขอชำระหนี้ตามกำหนดเวลา แต่เจ้าหนี้ปฏิเสธไม่ยอมรับการชำระหนี้นั้น

5. ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิด หากเจ้าหนี้ยอมขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ และผู้ค้ำประกันไม่ได้ตกลงด้วยในการขยายระยะเวลาดังกล่าว

กรณีลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดชอบเท่าไร

       ในกรณีที่ลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้จะต้องทำหนังสือแจ้งผู้ค้ำประกันให้ทราบก่อนภายใน 60 วันนับแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัด และห้ามไม่ให้เจ้าหนี้เรียกเอาหนี้กับผู้ค้ำประกันก่อนที่หนังสือแจ้งจะไปถึงผู้ค้ำประกัน ถ้าเจ้าหนี้ไม่มีหนังสือแจ้งผู้ค้ำประกันภายในเวลาที่กำหนด ผู้ค้ำประกันจะหลุดพ้นจากความรับผิดในส่วนที่เป็นดอกเบี้ย ค่าสินไหมทดแทนและค่าภาระติดพันต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังจากพ้นเวลาที่กำหนดข้างต้น

       ผู้ค้ำประกันสามารถจำกัดวงเงินสูงสุดและระยะเวลาในการค้ำประกันได้ ดังนั้น ก่อนที่จะเซ็นค้ำประกันควรตกลงกับเจ้าหนี้เพื่อกำหนดวงเงินและระยะเวลาที่ค้ำประกันให้ดี ก่อนเซ็นสัญญาค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดชอบมูลหนี้ทั้งหมดเหมือนกับลูกหนี้ทุกประการ ซึ่งหมายถึงผู้ค้ำประกันจะรับผิดชำระหนี้แทนลูกหนี้เฉพาะในส่วนที่ตนเองระบุไว้ในสัญญาค้ำประกันเท่านั้น โดยหลังจากที่ผู้ค้ำประกันใช้หนี้แทนลูกหนี้แล้วก็สามารถเรียกให้ลูกนี้ชำระเงินคืนตามจำนวนเงินที่ชำระแทนไปพร้อมดอกเบี้ย และค่าเสียหายอื่นๆ ได้

       เพราะฉะนั้น ก่อนจะค้ำประกันให้ใครควรไตร่ตรองให้รอบคอบ นอกจากจะถามลูกหนี้ว่าเขาพร้อมจะเป็นหนี้และมีความสามารถในการชำระหนี้จนหมดไหม เราก็ต้องถามตัวเองด้วยว่าพร้อมที่จะเสี่ยงเป็นหนี้โดยไม่ตั้งตัวหรือไม่ รวมถึงศึกษากฎหมายและข้อสัญญาให้ดีจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนภายหลัง

บทความ

วิธีเช็กร…

วิธีเช็กราคาประเมินที่ดินออนไลน์

วิธีเช็กราคาประเมินที่ดินออนไลน์แบบมีโฉนด

        ราคาประเมินที่ดินที่จัดทำโดยกรมธนารักษ์ โดยส่วนใหญ่จะนำมาใช้เป็นหนึ่งในเกณฑ์อ้างอิงของราคาซื้อ-ขาย สามารถเช็กราคาประเมินที่ดินออนไลน์เองง่าย ๆ ดังนี้

1.เข้าเว็บไซต์ https://assessprice.treasury.go.th/ 

2.กดเลือกเมนูที่ต้องการค้นหา โดยสามารถค้นได้จากเลขที่โฉนด เลขที่ดิน น.ส. 3 ก. ห้องชุด และสิ่งปลูกสร้าง โดยใส่ข้อมูลแล้วกดค้นหา

วิธีเช็กราคาประเมินที่ดินออนไลน์แบบไม่มีโฉนด

      สามารถค้นหาได้จากระบบค้นหารูปแปลงที่ดินของกรมที่ดิน ผ่านทางเว็บไซต์ https://landsmaps.dol.go.th/ จากนั้นเลือกจังหวัดและอำเภอที่ต้องการ หากมีเลขที่โฉนดก็สามารถใส่เพิ่มเติมได้ หากไม่มีโฉนดสามารถกดซูมแล้วคลิกพื้นที่ที่ต้องการทราบราคาประเมิน จากนั้นก็จะปรากฏข้อมูลต่าง ๆ เช่น ที่ตั้ง เนื้อที่ และราคาประเมินที่ดิน

เรียกได้ว่าสะดวกและง่ายดายมาก ๆ สำหรับใครที่อยากรู้ว่าราคาที่ดินแต่ละแห่งเท่าไร ก็สามารถเช็กราคาประเมินที่ดินออนไลน์ได้เองง่าย ๆ ไว้ประกอบการพิจารณาก่อนทำการซื้อ-ขายที่ดิน

บทความ

ทำไมถึงห้…

รู้ไหม..ทำไมถึงห้ามถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนด้านหลังโดยเด็ดขาด

ทำไมถึงห้ามถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนด้านหลังโดยเด็ดขาด

    1.มีเลข Laser ID ที่ต้องใช้ร่วมกับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก หน่วยงานของรัฐ และสถาบันการเงินใช้ทำธุรกรรม ตรวจสอบ และยืนยันตัวตน

   2.อาจถูกสวมรอยนำข้อมูลในบัตรไปใช้ในทางผิดกฎหมาย

หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในกรณีที่จำเป็นต้องถ่ายด้านหลังบัตร หรือต้องกรอกข้อมูลเลข Laser ID ให้ดำเนินการตามนี้

    1.หากบางหน่วยงาน ยืนยันว่าต้องถ่ายสำเนาบัตรทั้งด้านหน้าและหลัง ให้เราปิดเลข Laser ID ตอนถ่ายสำเนา

    2.หากต้องกรอกข้อมูลเลข Laser ID ด้านหลังบัตร ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นเหล่านั้น เป็นของหน่วยงานราชการและสถาบันการเงินจริงหรือไม่ และระวังเรื่องเว็บไซต์ปลอม

ที่สำคัญ! หากต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนในการยืนยันต่างๆ ให้ถ่ายสำเนาเฉพาะด้านหน้าบัตรเท่านั้น เพราะโดยลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมระบุวัตถุประสงค์และวันที่ให้ชัดเจนทุกครั้ง

บทความ

3 วิธีผ่อ…

3 วิธีผ่อนรถให้หมดไว จ่ายดอกเบี้ยน้อยกว่า!

      การซื้อรถยนต์แบบผ่อนชำระ ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นการผ่อนชำระกับธนาคาร แน่นอนว่าต้องมาพร้อมอัตราดอกเบี้ย แล้วหากไม่อยากจ่ายดอกเบี้ยจำนวนมาก จะมีวิธีผ่อนรถให้หมดไวขึ้นได้อย่างไรบ้าง

1.จ่ายเงินดาวน์เยอะ ช่วยลดยอดเงินกู้

      เทคนิคแรกในการผ่อนรถให้หมดไว เริ่มต้นได้ตั้งแต่ตอนที่คุณตัดสินใจซื้อรถยนต์แล้วต้องจ่ายเงินดาวน์ ไม่อยากเสียดอกเบี้ยเยอะหรือผ่อนชำระกับธนาคารเป็นเวลานาน แนะนำให้จ่ายเงินดาวน์ก้อนใหญ่เพื่อช่วยลดยอดเงินกู้ ทำให้จ่ายค่างวดและดอกเบี้ยน้อยลง รวมถึงไม่ต้องมีภาระผ่อนชำระกับธนาคารนานเกินไป โดยค่างวดไม่ควรเกิน 20-25% ของเงินเดือน เพื่อป้องกันสภาพคล่องทางการเงินสะดุดนั่นเอง

2.เลือกระยะเวลาผ่อนชำระให้สั้นเข้าไว้

     การเลือกระยะเวลาผ่อนชำระค่างวดรถเป็นเวลานาน มองเผิน ๆ อาจช่วยลดภาระให้คุณไม่ต้องจ่ายค่างวดแต่ละเดือนเป็นเงินจำนวนมากก็จริง แต่ก็แลกมาด้วยระยะเวลาการเสียดอกเบี้ยที่นานขึ้น ดังนั้น หากคุณอยากผ่อนรถให้หมดไวและไม่อยากเสียดอกเบี้ยเยอะ ควรเลือกระยะเวลาผ่อนชำระให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ รับรองว่าช่วยให้หมดหนี้ไว ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยบาน และเป็นการลดภาระหนี้ในระยะยาวได้อย่างแน่นอน

3.จ่ายยอดเงินเกินค่างวดอยู่เสมอ

     อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณผ่อนรถให้หมดไวขึ้น คือการจ่ายยอดเงินให้เกินค่างวดที่ธนาคารกำหนด หรือเรียกว่าการโปะนั่นเอง เพราะการผ่อนรถยนต์ของสถาบันการเงินหลายแห่งเป็นแบบลดต้นลดดอก หากมีโอกาส สามารถบริหารจัดการรายได้ในเดือนนั้นได้ดีแล้วนำเงินส่วนที่เหลือมาจ่ายค่างวดเพิ่ม ก็จะช่วยลดดอกเบี้ยได้จำนวนมหาศาล ยิ่งทำอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน รถยนต์ของคุณก็จะผ่อนหมดเร็วขึ้นโดยที่เสียดอกเบี้ยน้อยลง หรือหากมีเงินก้อนเพียงพอต่อยอดเงินที่ค้างอยู่ ก็สามารถนำมาปิดบัญชีก่อนกำหนดได้เลย

ทั้งนี้ ก่อนจะจ่ายเงินเกินค่างวดหรือนำเงินก้อนมาปิดบัญชีก่อนกำหนด อย่าลืมเช็กเงื่อนไขให้ดีว่าสถาบันการเงินที่คุณยื่นกู้ อนุญาตให้จ่ายยอดเงินเกินได้หรือไม่ เพื่อจะได้วางแผนการชำระค่างวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

บทความ

รวมวิธีป้…

รวมวิธีป้องกันและตรวจสอบแอป ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

     เนื่องจากมิจฉาชีพในปัจจุบัน สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกับธนาคาร หรือผู้ให้บริการสินเชื่อได้ ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาแอปพลิเคชันที่ให้บริการสินเชื่อออนไลน์ แต่ไม่อยากถูกซ้ำเติมความเดือดร้อนเรื่องเงินจากการโดนมิจฉาชีพหลอก เรารวมวิธีป้องกันและตรวจสอบแอป

1. ไม่โหลดแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ 


     อย่างที่บอกไปว่า มิจฉาชีพสามารถสร้างแอปที่มีความเหมือนหรือคล้ายคลึงกับแอปของธนาคารออกมาได้ ดังนั้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจดาวน์โหลดควรจะมีการอ่านรายละเอียดก่อนติดตั้งให้ดีก่อน นอกจากนี้ยังสามารถเช็กได้จากรีวิวของผู้ใช้งานแอปนั้น ๆ ก็ได้เช่นกัน 


2.
ไม่โหลดแอปจากลิงก์ หรือข้อความทาง SMS หรือ อีเมล


     อีกหนึ่งวิธีที่มิจฉาชีพใช้ในการหลอกลวงเงินก็คือ การส่งข้อความมาทาง SMS หรืออีเมล โดยมีข้อความที่ดึงดูดใจ เช่น เงินด่วนดอกเบี้ยถูก เงินด่วนไม่ต้องมีคนค้ำ ได้เงินเร็วใน 30 นาที เป็นต้น พร้อมกับแนบลิงก์ให้คุณคลิกเพื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน หากคุณเจอข้อความลักษณะนี้ห้ามคลิกลิงก์เด็ดขาด เพราะธนาคารหรือสถาบันการเงินส่วนใหญ่ จะไม่มีนโยบายเสนอสินเชื่อผ่านข้อความ และลิงก์นั้นอาจทำให้มิจฉาชีพเข้าถึงเงินในบัญชีของคุณได้อย่างง่ายดาย 


3.
ไม่โหลดแอปนอก Store ทางการ (เช่น Apple Store ,Google play)


    เนื่องจากแอปที่อยู่นอก Store ทางการจะไม่ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่มีการบอกรายละเอียดของแอปนั้น ๆ รวมถึงไม่มีการสแกนมัลแวร์ที่อันตรายต่อข้อมูลของเรา ดังนั้น หากคุณถูกเชื้อเชิญให้โหลดแอปจากนอก Store ทางการอย่าง Apple Store หรือ Google Play ให้หยุดความคิดนั้นไว้ทันที

4. ไม่ใช้ Wi-Fi สาธารณะที่ไม่รู้จัก


     การเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะที่ไม่รู้จัก จะทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ของคุณมีความเสี่ยงที่มิจฉาชีพจะเข้าถึงได้ง่าย เพราะเมื่อคุณเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับเครือข่าย Wi-Fi นั่นหมายความว่า คุณกำลังส่งข้อมูลส่วนตัวของคุณผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันมือถือ ซึ่งจะทำให้แฮกเกอร์หรือมิจฉาชีพสามารถเจาะระบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้


5.
ระวังการกรอกข้อมูลสำคัญ


     การสมัครสินเชื่อผ่านแอปกู้เงินถูกกฎหมาย จะมีการขอเอกสารข้อมูลยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน และเอกสารข้อมูลแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน เป็นต้น ส่วนเอกสารการเดินบัญชีหรือ Statement จะขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินว่าต้องใช้ประกอบการพิจารณาหรือไม่ โดยผู้ขอสินเชื่อควรเซ็นสำเนาถูกต้องและระบุวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลนั้น ๆ ให้ชัดเจน หากแอปฯ นั้น ๆ มีการขอข้อมูลมากกว่าที่จำเป็น ก็ควรจะรีบทำการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแอปฯ และผู้ให้บริการสินเชื่อในทันที


6.
จำกัดวงเงินแต่ละวัน


     แอปกู้เงินผิดกฎหมาย มักจะมีการจำกัดวงเงินในแต่ละวันอยู่ที่ 2,000-4,000 บาท เพราะมิจฉาชีพเหล่านี้รู้อยู่แล้วว่า หากเป็นคนที่เดือดร้อนเรื่องเงินจริง ๆ ไม่ว่าจะเงินเท่าไหร่ก็จะตัดสินใจกู้อยู่ดี 

บทความ

3 หลักการ…

3 หลักการ ในการแก้หนี้ให้ได้ผลยั่งยืน

การแก้หนี้ที่เหมาะสมเพื่อให้การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ มี 3 องค์ประกอบสำคัญ คือ

1.ทำอย่างครบวงจร

       ให้เหมาะกับลักษณะและสาเหตุของปัญหาในแต่ละช่วงของการเป็นหนี้ ตั้งแต่ก่อนเป็นหนี้ กำลังจะเป็นหนี้ ระหว่างเป็นหนี้ และเมื่อประสบปัญหาการชำระหนี้ เพื่อกันปัญหาวนซ้ำเป็นงูกินหาง

2.ทำถูกหลักการ

       มีแนวทางที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ รู้ว่าอะไรควรทำ และไม่ควรทำ รวมถึงทำในเวลาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงหรือผลเสียในระยะยาว ดังนี้

แก้ให้ตรงจุด เพราะการทำมาตรการแบบเหวี่ยงแห/เป็นวงกว้างนานเกินไป จะทำให้สถาบันการเงินไม่สามารถนำทรัพยากรไปช่วยผู้ที่เดือดร้อนหนักกว่าได้ และต้องแก้ให้เหมาะกับสถานการณ์/ปัญหาของลูกหนี้ เช่น การให้สินเชื่อเพิ่มเพื่อแก้ปัญหารายได้ในช่วงวิกฤต แม้มีข้อดีที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระยะสั้น แต่ต้องระวังการเกิดปัญหาหนี้ที่อาจชำระไม่ได้ในระยะยาว กลายเป็นหนี้เรื้อรังหรือหนี้เสีย ทำให้เข้าถึงสินเชื่อในระบบยากขึ้น

ไม่สร้างภาระเพิ่มให้ลูกหนี้ เช่น พักชำระหนี้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เป็นเพียงการผลักปัญหาไปในอนาคต เพราะหนี้เดิมไม่ลดและมีภาระเพิ่มจากดอกเบี้ยที่เดินอยู่ตลอดด้วย รวมถึงอาจเสียวินัยทางการเงินเพราะชินกับการไม่ต้องจ่ายหนี้และอาจก่อหนี้เพิ่ม ขณะที่เจ้าหนี้อาจมีสภาพคล่องไม่พอปล่อยสินเชื่อใหม่ หรือช่วยเหลือลูกหนี้ที่เดือดร้อนจริง ๆ

ไม่ลดโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อ เช่น ลบประวัติข้อมูลเครดิต ทำให้เจ้าหนี้ไม่มีประวัติลูกหนี้ในการพิจารณาสินเชื่อ จนไม่กล้าปล่อยกู้ ทำให้ลูกหนี้เข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ยากขึ้น หรือหากกู้ได้ จะโดนคิดดอกเบี้ยแพง

ตั้งใจจริง เจ้าหนี้ต้องร่วมใจช่วยเหลือและแก้ปัญหาให้เหมาะกับลูกหนี้แต่ละราย และลูกหนี้ต้องลุกขึ้นมาแก้ปัญหาหนี้ ปฏิบัติตามสัญญาใหม่อย่างมีวินัย และบริหารเงินอย่างถูกต้อง

3.ต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน

       เพื่อแก้ปัญหาหนี้ให้ครบทุกประเภท ทั้งหนี้ที่ ธปท. กำกับดูแล ซึ่งคิดเป็น 4 ใน 5 ของหนี้ครัวเรือนในระบบ ได้แก่ หนี้ที่อยู่กับ ธพ. SFIs และนอนแบงก์ และหนี้ส่วนอื่น เช่น หนี้สหกรณ์ หนี้ กยศ. และหนี้กองทุนหมู่บ้าน รวมถึงหนี้นอกระบบ จึงต้องการความร่วมมือจากผู้กำกับดูแลหนี้ประเภทต่าง ๆ รวมทั้งภาครัฐอื่น ๆ เจ้าหนี้ภาคเอกชน และที่สำคัญตัวลูกหนี้เอง เพื่อให้การแก้หนี้เกิดขึ้นได้ครบวงจร และเห็นผลตามเป้าหมายของการแก้หนี้ให้ยั่งยืน ที่สำคัญ ต้องแก้ปัญหาจากมิติด้านรายได้ และรัฐสวัสดิการ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการเกษตร เช่น ชลประทานการเกษตร และประกันภัยพืชผล ควบคู่ด้วย 

ขอบคุณเนื้อหาดีๆจาก 3 หลักการ ในการแก้หนี้ให้ได้ผลยั่งยืน | Financial Landscape (bot.or.th)

ข่าวสารและกิจกรรม

🎉ชูเกียรต…

🎉ชูเกียรติลิสซิ่ง จัดกิจกรรมอบรมเรียนรู้ 🎉

ส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับชุมชน ในโครงการ
“ชูเกียรติ อาสา”
ให้กับชุมชนบ้านนาปง
ต.ห้วยยูง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่