บทความ

รถแบบไหนไ…

รถแบบไหนได้ราคาประเมินดี

        สิ่งที่เจ้าของรถหลายคนให้ความสำคัญคือการดูแลสภาพและสมรรถนะของรถยนต์ให้ดีอยู่เสมอเพื่อคงมูลค่าของรถไว้ซึ่งสะท้อนได้จากราคาประเมินรถ เพราะการที่รถมีราคาประเมินสูงจะทำให้ขายได้ราคาดีขึ้นเมื่อต้องการขายหรือนำรถไปเทิร์นเพื่อเปลี่ยนเป็นรถคันใหม่ รวมทั้งกรณีที่ต้องการขอสินเชื่ออย่างสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ก็จะมีโอกาสได้รับวงเงินอนุมัติที่สูงขึ้นอีกด้วย
       แม้ว่าราคาประเมินรถสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามภาวะตลาด แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาประเมิน ซึ่งคุณสามารถใช้ปัจจัยเหล่านี้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกรถเพื่อเพิ่มโอกาสทำให้รถได้ราคาประเมินที่สูงขึ้น โดยมีปัจจัยดังนี้

แบรนด์และรุ่นรถที่ติดตลาด 
       ยี่ห้อที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ และรถรุ่นที่คนให้ความสนใจเยอะ มักมีราคาประเมินสูงกว่า เนื่องจากสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้คล่องกว่า

อายุและเลขไมล์
        รถที่เพิ่งซื้อมาไม่นานและรถที่มีเลขไมล์น้อยมักได้ราคาประเมินที่ดีกว่า เพราะหมายถึงรถผ่านการใช้งานมาน้อย สภาพรถและเครื่องยนต์ก็จะไม่ช้ำและยังไม่เสื่อมสภาพมากนัก  สามารถนำไปใช้งานต่อได้นานกว่า

การดูแลและบำรุงรักษารถ
         การบำรุงรักษารถให้อยู่ในสภาพดีและมีประวัติการนำรถเข้าศูนย์อย่างสม่ำเสมอเป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้รถได้ราคาประเมินดี

รถประวัติดี
         หากรถเคยมีการขับชน พลิกคว่ำ หรือมีอุบัติเหตุรุนแรง แม้สภาพภายนอกจะซ่อมให้กลับมาสวยงามได้ แต่มักทำให้เกิดข้อกังวลถึงประสิทธิภาพเครื่องยนต์หลังผ่านการซ่อม ดังนั้นรถที่ไม่มีประวัติชน หรือประวัติการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจึงมีราคาประเมินที่ดีกว่า

อ็อปชันเสริมและการอัปเกรด
         หลายคนอาจคิดว่าการเพิ่มอ็อปชันเสริมจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับรถได้ แต่ความจริงกลับตรงข้าม เพราะอุปกรณ์เสริมส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกนำมาคิดในการประเมินราคารถ ยิ่งกว่านั้นการดัดแปลงหรือปรับแต่งรถควรทำด้วยความระมัดระวัง เพราะบางอย่างอาจมองว่าเป็นผลเสียต่อรถแทนที่จะเป็นผลดี และทำให้ราคาประเมินต่ำลงก็เป็นได้

สภาพภายในและภายนอกรถ
          ควรดูแลให้สภาพรถทั้งภายในและภายนอกอยู่ในสภาพดี ทั้งความสะอาดเรียบร้อยและควรซ่อมแซมร่องรอยการชนหรือรอยขีดข่วนให้เรียบร้อย เพราะร่องรอยบางอย่างอาจยิ่งซ่อมยากขึ้นหากปล่อยไว้นานเกินไป

หาศูนย์หรือร้านซ่อมได้ง่าย
          ควรเลือกยี่ห้อหรือรุ่นรถที่หาศูนย์หรือร้านซ่อมได้สะดวกหากรถเกิดการชำรุดหรือเสียหาย เพราะความยากง่ายในการซ่อมและการหาอะไหล่มาเปลี่ยนก็เป็นอีกเรื่องที่ส่งผลต่อราคาประเมินรถด้วยเช่นกัน เพราะรถที่หาร้านซ่อมยากหรือต้องรอซ่อมนานย่อมหมายถึงการเสียเวลาและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

      ได้รู้ปัจจัยที่มีผลต่อราคาประเมินรถกันแล้ว ก็อย่าลืมพิจารณาสิ่งเหล่านี้ก่อนตัดสินใจซื้อรถ เพราะรถเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ชีวิตเราได้ ดังนั้นการเลือกรถที่มีราคาประเมินดีย่อมหมายถึงการเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจหรืออาชีพเสริมในอนาคตสำเร็จไปได้ไกลกว่าเดิม

บทความ

ประกันชีว…

ประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อคืออะไร?

       ประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ คือ ประกันชีวิตที่คุ้มครองผู้ขอสินเชื่อตามวงเงินที่กู้ และตามระยะเวลาสินเชื่อนั้น ๆ โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินกู้ที่เหลืออยู่ตามที่ระบุในหนังสือรับรองการประกันภัย หากผู้ทำประกันเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรจากอุบัติเหตุ จนไม่สามารถประกอบอาชีพหรือผ่อนสินเชื่อต่อได้

       แต่เดิมนั้น การทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อนิยมทำในกรณีที่วงเงินสินเชื่อค่อนข้างสูงและมีระยะเวลาการผ่อนชำระที่นาน อย่างการกู้ซื้อบ้าน ที่ดิน หรือสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามาก เนื่องจากมีระยะเวลากู้หลายสิบปี และมีความเสี่ยงที่ผู้กู้จะเสียชีวิต หรือทุพพลภาพไปก่อนที่จะปิดบัญชีสินเชื่อนั้น ๆ ได้ แต่ในปัจจุบันสินเชื่อส่วนบุคคลอื่น ๆ ก็สามารถซื้อประกันชีวิตรูปแบบนี้ไว้คุ้มครองได้ ทั้งสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อรถยนต์ แม้จะเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลาการกู้ยืมที่สั้น ไม่ถึง 10 ปี แต่ก็เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการหลักประกันและสร้างความอุ่นใจมากยิ่งขึ้น

สิทธิประโยชน์เเละความคุ้มครองมีอะไรบ้าง?

      สำหรับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ จะให้ความคุ้มครองใน 2 กรณี คือ 1. เสียชีวิต 2. สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรจากอุบัติเหตุ ซึ่งทั้งสองกรณีทำให้ผู้กู้ไม่มีศักยภาพที่จะชำระหนี้ได้

      ในกรณีที่ผู้กู้เสียชีวิต จะคุ้มครองทุกกรณีไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย หรือสาเหตุใดก็ตาม โดยจะได้รับความคุ้มครองตามเงินประกันที่ลดลงตามตารางการผ่อนชำระ แต่ในกรณีที่ผู้กู้ได้ผ่อนชำระเกินกว่าที่สถาบันการเงินกำหนด เพื่อลดต้นลดดอก ผู้รับผลประโยชน์หรือทายาทก็จะได้รับเงินส่วนต่างตรงนี้ด้วยเช่นกัน

      ในกรณีสูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรจากอุบัติเหตุ ทางบริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยตารางรางรายการทดแทน เช่น กรณีสูญเสียมือหรือเท้า 2 ข้าง โดยตัดตั้งแต่ข้อมือหรือข้อเท้า หรือสูญเสียสายตาทั้ง 2 ข้าง โดยไม่มีทางรักษาให้หายได้ จะได้รับความคุ้มครอง 100% ของวงเงินเอาประกันภัยให้กับสถาบันการเงินเพื่อชำระหนี้สินคงค้าง และส่วนที่เหลือ (ถ้ามี) ให้กับผู้รับผลประโยชน์หรือทายาทด้วยเช่นกัน

บทความ

เรื่องต้อ…

เรื่องต้องรู้ ก่อนเป็นผู้ค้ำประกัน

      ในปัจจุบัน หากจะทำสัญญาเงินกู้ หรือขอสินเชื่อต่างๆ สถาบันการเงินบางแห่ง ต้องการเพิ่มความมั่นใจในตัวลูกหนี้มากขึ้น จึงกำหนดให้มี “ผู้ค้ำประกัน” เข้ามาค้ำประกันหนี้ที่ลูกหนี้ทำสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินนั้นๆ เพราะอย่างน้อยหากลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้ก็ยังมีผู้ค้ำประกันคอยรับผิดชอบอยู่

      ฉะนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเซ็นค้ำประกันให้ใครจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการค้ำประกันนั้นๆ อย่างละเอียดเสียก่อน เพราะการค้ำประกันสามารถพลิกชีวิตใครหลายๆ คน ให้กลายเป็นหนี้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว แม้จะเป็นการค้ำประกันให้คนรู้จัก หรือญาติพี่น้อง แต่ถ้ามีการผิดนัดชำระหนี้ คุณเองนั่นแหละที่จะต้องแบกรับภาระหนี้แทน 

       ผู้ค้ำประกัน คือ บุคคลหนึ่งทำสัญญากับเจ้าหนี้ว่า จะชำระหนี้แทนลูกหนี้เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้

ค้ำประกันอย่างไรให้ปลอดภัย

1. ดูรายละเอียดสัญญาเงินกู้ ว่า ระบุจำนวนเงินกู้ไว้เป็นจำนวนเท่าใด และมีทรัพย์สินอื่นๆ เป็นประกันหนี้ด้วยหรือไม่ เพราะผู้ค้ำประกันจะต้องเข้าไปค้ำประกันหนี้ของลูกหนี้ตามสัญญาเงินกู้ดังกล่าว

2. สัญญาค้ำประกันต้องทำเป็นหนังสือ และลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกัน

3. ควรอ่านสัญญาค้ำประกันให้ละเอียดและครบถ้วนก่อนเซ็นค้ำประกัน

ขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกัน

1. ผู้ค้ำประกันจะรับผิดแทนลูกหนี้ ต่อเมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ตามที่ตกลงในสัญญาเงินกู้เท่านั้น

2. หากเจ้าหนี้ลดหนี้ให้ลูกหนี้เท่าไร ความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกันก็ลดลงเท่านั้นเช่นกัน และถ้าลูกหนี้ชำระหนี้ที่ลดลงไม่ครบถ้วน ผู้ค้ำประกันชำระส่วนที่เหลือ หรือถ้าลูกหนี้ไม่ชำระเลยแล้วผู้ค้ำประกันชำระหนี้ตามที่ลดลงครบถ้วน ผู้ค้ำประกันก็หลุดพ้นจากการค้ำประกัน

3. หากมีข้อตกลงในสัญญาค้ำประกันเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ค้ำประกันมากกว่าที่ระบุในข้อ 2. ข้อตกลงนั้นจะเป็นโมฆะ

4. ผู้ค้ำประกันจะหลุดพ้นจากความรับผิด เมื่อยื่นขอชำระหนี้ตามกำหนดเวลา แต่เจ้าหนี้ปฏิเสธไม่ยอมรับการชำระหนี้นั้น

5. ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิด หากเจ้าหนี้ยอมขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ และผู้ค้ำประกันไม่ได้ตกลงด้วยในการขยายระยะเวลาดังกล่าว

กรณีลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดชอบเท่าไร

       ในกรณีที่ลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้จะต้องทำหนังสือแจ้งผู้ค้ำประกันให้ทราบก่อนภายใน 60 วันนับแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัด และห้ามไม่ให้เจ้าหนี้เรียกเอาหนี้กับผู้ค้ำประกันก่อนที่หนังสือแจ้งจะไปถึงผู้ค้ำประกัน ถ้าเจ้าหนี้ไม่มีหนังสือแจ้งผู้ค้ำประกันภายในเวลาที่กำหนด ผู้ค้ำประกันจะหลุดพ้นจากความรับผิดในส่วนที่เป็นดอกเบี้ย ค่าสินไหมทดแทนและค่าภาระติดพันต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังจากพ้นเวลาที่กำหนดข้างต้น

       ผู้ค้ำประกันสามารถจำกัดวงเงินสูงสุดและระยะเวลาในการค้ำประกันได้ ดังนั้น ก่อนที่จะเซ็นค้ำประกันควรตกลงกับเจ้าหนี้เพื่อกำหนดวงเงินและระยะเวลาที่ค้ำประกันให้ดี ก่อนเซ็นสัญญาค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดชอบมูลหนี้ทั้งหมดเหมือนกับลูกหนี้ทุกประการ ซึ่งหมายถึงผู้ค้ำประกันจะรับผิดชำระหนี้แทนลูกหนี้เฉพาะในส่วนที่ตนเองระบุไว้ในสัญญาค้ำประกันเท่านั้น โดยหลังจากที่ผู้ค้ำประกันใช้หนี้แทนลูกหนี้แล้วก็สามารถเรียกให้ลูกนี้ชำระเงินคืนตามจำนวนเงินที่ชำระแทนไปพร้อมดอกเบี้ย และค่าเสียหายอื่นๆ ได้

       เพราะฉะนั้น ก่อนจะค้ำประกันให้ใครควรไตร่ตรองให้รอบคอบ นอกจากจะถามลูกหนี้ว่าเขาพร้อมจะเป็นหนี้และมีความสามารถในการชำระหนี้จนหมดไหม เราก็ต้องถามตัวเองด้วยว่าพร้อมที่จะเสี่ยงเป็นหนี้โดยไม่ตั้งตัวหรือไม่ รวมถึงศึกษากฎหมายและข้อสัญญาให้ดีจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนภายหลัง

บทความ

วิธีเช็กร…

วิธีเช็กราคาประเมินที่ดินออนไลน์

วิธีเช็กราคาประเมินที่ดินออนไลน์แบบมีโฉนด

        ราคาประเมินที่ดินที่จัดทำโดยกรมธนารักษ์ โดยส่วนใหญ่จะนำมาใช้เป็นหนึ่งในเกณฑ์อ้างอิงของราคาซื้อ-ขาย สามารถเช็กราคาประเมินที่ดินออนไลน์เองง่าย ๆ ดังนี้

1.เข้าเว็บไซต์ https://assessprice.treasury.go.th/ 

2.กดเลือกเมนูที่ต้องการค้นหา โดยสามารถค้นได้จากเลขที่โฉนด เลขที่ดิน น.ส. 3 ก. ห้องชุด และสิ่งปลูกสร้าง โดยใส่ข้อมูลแล้วกดค้นหา

วิธีเช็กราคาประเมินที่ดินออนไลน์แบบไม่มีโฉนด

      สามารถค้นหาได้จากระบบค้นหารูปแปลงที่ดินของกรมที่ดิน ผ่านทางเว็บไซต์ https://landsmaps.dol.go.th/ จากนั้นเลือกจังหวัดและอำเภอที่ต้องการ หากมีเลขที่โฉนดก็สามารถใส่เพิ่มเติมได้ หากไม่มีโฉนดสามารถกดซูมแล้วคลิกพื้นที่ที่ต้องการทราบราคาประเมิน จากนั้นก็จะปรากฏข้อมูลต่าง ๆ เช่น ที่ตั้ง เนื้อที่ และราคาประเมินที่ดิน

เรียกได้ว่าสะดวกและง่ายดายมาก ๆ สำหรับใครที่อยากรู้ว่าราคาที่ดินแต่ละแห่งเท่าไร ก็สามารถเช็กราคาประเมินที่ดินออนไลน์ได้เองง่าย ๆ ไว้ประกอบการพิจารณาก่อนทำการซื้อ-ขายที่ดิน

บทความ

ทำไมถึงห้…

รู้ไหม..ทำไมถึงห้ามถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนด้านหลังโดยเด็ดขาด

ทำไมถึงห้ามถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนด้านหลังโดยเด็ดขาด

    1.มีเลข Laser ID ที่ต้องใช้ร่วมกับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก หน่วยงานของรัฐ และสถาบันการเงินใช้ทำธุรกรรม ตรวจสอบ และยืนยันตัวตน

   2.อาจถูกสวมรอยนำข้อมูลในบัตรไปใช้ในทางผิดกฎหมาย

หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในกรณีที่จำเป็นต้องถ่ายด้านหลังบัตร หรือต้องกรอกข้อมูลเลข Laser ID ให้ดำเนินการตามนี้

    1.หากบางหน่วยงาน ยืนยันว่าต้องถ่ายสำเนาบัตรทั้งด้านหน้าและหลัง ให้เราปิดเลข Laser ID ตอนถ่ายสำเนา

    2.หากต้องกรอกข้อมูลเลข Laser ID ด้านหลังบัตร ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นเหล่านั้น เป็นของหน่วยงานราชการและสถาบันการเงินจริงหรือไม่ และระวังเรื่องเว็บไซต์ปลอม

ที่สำคัญ! หากต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนในการยืนยันต่างๆ ให้ถ่ายสำเนาเฉพาะด้านหน้าบัตรเท่านั้น เพราะโดยลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมระบุวัตถุประสงค์และวันที่ให้ชัดเจนทุกครั้ง

บทความ

3 วิธีผ่อ…

3 วิธีผ่อนรถให้หมดไว จ่ายดอกเบี้ยน้อยกว่า!

      การซื้อรถยนต์แบบผ่อนชำระ ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นการผ่อนชำระกับธนาคาร แน่นอนว่าต้องมาพร้อมอัตราดอกเบี้ย แล้วหากไม่อยากจ่ายดอกเบี้ยจำนวนมาก จะมีวิธีผ่อนรถให้หมดไวขึ้นได้อย่างไรบ้าง

1.จ่ายเงินดาวน์เยอะ ช่วยลดยอดเงินกู้

      เทคนิคแรกในการผ่อนรถให้หมดไว เริ่มต้นได้ตั้งแต่ตอนที่คุณตัดสินใจซื้อรถยนต์แล้วต้องจ่ายเงินดาวน์ ไม่อยากเสียดอกเบี้ยเยอะหรือผ่อนชำระกับธนาคารเป็นเวลานาน แนะนำให้จ่ายเงินดาวน์ก้อนใหญ่เพื่อช่วยลดยอดเงินกู้ ทำให้จ่ายค่างวดและดอกเบี้ยน้อยลง รวมถึงไม่ต้องมีภาระผ่อนชำระกับธนาคารนานเกินไป โดยค่างวดไม่ควรเกิน 20-25% ของเงินเดือน เพื่อป้องกันสภาพคล่องทางการเงินสะดุดนั่นเอง

2.เลือกระยะเวลาผ่อนชำระให้สั้นเข้าไว้

     การเลือกระยะเวลาผ่อนชำระค่างวดรถเป็นเวลานาน มองเผิน ๆ อาจช่วยลดภาระให้คุณไม่ต้องจ่ายค่างวดแต่ละเดือนเป็นเงินจำนวนมากก็จริง แต่ก็แลกมาด้วยระยะเวลาการเสียดอกเบี้ยที่นานขึ้น ดังนั้น หากคุณอยากผ่อนรถให้หมดไวและไม่อยากเสียดอกเบี้ยเยอะ ควรเลือกระยะเวลาผ่อนชำระให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ รับรองว่าช่วยให้หมดหนี้ไว ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยบาน และเป็นการลดภาระหนี้ในระยะยาวได้อย่างแน่นอน

3.จ่ายยอดเงินเกินค่างวดอยู่เสมอ

     อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณผ่อนรถให้หมดไวขึ้น คือการจ่ายยอดเงินให้เกินค่างวดที่ธนาคารกำหนด หรือเรียกว่าการโปะนั่นเอง เพราะการผ่อนรถยนต์ของสถาบันการเงินหลายแห่งเป็นแบบลดต้นลดดอก หากมีโอกาส สามารถบริหารจัดการรายได้ในเดือนนั้นได้ดีแล้วนำเงินส่วนที่เหลือมาจ่ายค่างวดเพิ่ม ก็จะช่วยลดดอกเบี้ยได้จำนวนมหาศาล ยิ่งทำอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน รถยนต์ของคุณก็จะผ่อนหมดเร็วขึ้นโดยที่เสียดอกเบี้ยน้อยลง หรือหากมีเงินก้อนเพียงพอต่อยอดเงินที่ค้างอยู่ ก็สามารถนำมาปิดบัญชีก่อนกำหนดได้เลย

ทั้งนี้ ก่อนจะจ่ายเงินเกินค่างวดหรือนำเงินก้อนมาปิดบัญชีก่อนกำหนด อย่าลืมเช็กเงื่อนไขให้ดีว่าสถาบันการเงินที่คุณยื่นกู้ อนุญาตให้จ่ายยอดเงินเกินได้หรือไม่ เพื่อจะได้วางแผนการชำระค่างวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

บทความ

รวมวิธีป้…

รวมวิธีป้องกันและตรวจสอบแอป ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

     เนื่องจากมิจฉาชีพในปัจจุบัน สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกับธนาคาร หรือผู้ให้บริการสินเชื่อได้ ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาแอปพลิเคชันที่ให้บริการสินเชื่อออนไลน์ แต่ไม่อยากถูกซ้ำเติมความเดือดร้อนเรื่องเงินจากการโดนมิจฉาชีพหลอก เรารวมวิธีป้องกันและตรวจสอบแอป

1. ไม่โหลดแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ 


     อย่างที่บอกไปว่า มิจฉาชีพสามารถสร้างแอปที่มีความเหมือนหรือคล้ายคลึงกับแอปของธนาคารออกมาได้ ดังนั้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจดาวน์โหลดควรจะมีการอ่านรายละเอียดก่อนติดตั้งให้ดีก่อน นอกจากนี้ยังสามารถเช็กได้จากรีวิวของผู้ใช้งานแอปนั้น ๆ ก็ได้เช่นกัน 


2.
ไม่โหลดแอปจากลิงก์ หรือข้อความทาง SMS หรือ อีเมล


     อีกหนึ่งวิธีที่มิจฉาชีพใช้ในการหลอกลวงเงินก็คือ การส่งข้อความมาทาง SMS หรืออีเมล โดยมีข้อความที่ดึงดูดใจ เช่น เงินด่วนดอกเบี้ยถูก เงินด่วนไม่ต้องมีคนค้ำ ได้เงินเร็วใน 30 นาที เป็นต้น พร้อมกับแนบลิงก์ให้คุณคลิกเพื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน หากคุณเจอข้อความลักษณะนี้ห้ามคลิกลิงก์เด็ดขาด เพราะธนาคารหรือสถาบันการเงินส่วนใหญ่ จะไม่มีนโยบายเสนอสินเชื่อผ่านข้อความ และลิงก์นั้นอาจทำให้มิจฉาชีพเข้าถึงเงินในบัญชีของคุณได้อย่างง่ายดาย 


3.
ไม่โหลดแอปนอก Store ทางการ (เช่น Apple Store ,Google play)


    เนื่องจากแอปที่อยู่นอก Store ทางการจะไม่ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่มีการบอกรายละเอียดของแอปนั้น ๆ รวมถึงไม่มีการสแกนมัลแวร์ที่อันตรายต่อข้อมูลของเรา ดังนั้น หากคุณถูกเชื้อเชิญให้โหลดแอปจากนอก Store ทางการอย่าง Apple Store หรือ Google Play ให้หยุดความคิดนั้นไว้ทันที

4. ไม่ใช้ Wi-Fi สาธารณะที่ไม่รู้จัก


     การเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะที่ไม่รู้จัก จะทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ของคุณมีความเสี่ยงที่มิจฉาชีพจะเข้าถึงได้ง่าย เพราะเมื่อคุณเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับเครือข่าย Wi-Fi นั่นหมายความว่า คุณกำลังส่งข้อมูลส่วนตัวของคุณผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันมือถือ ซึ่งจะทำให้แฮกเกอร์หรือมิจฉาชีพสามารถเจาะระบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้


5.
ระวังการกรอกข้อมูลสำคัญ


     การสมัครสินเชื่อผ่านแอปกู้เงินถูกกฎหมาย จะมีการขอเอกสารข้อมูลยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน และเอกสารข้อมูลแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน เป็นต้น ส่วนเอกสารการเดินบัญชีหรือ Statement จะขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินว่าต้องใช้ประกอบการพิจารณาหรือไม่ โดยผู้ขอสินเชื่อควรเซ็นสำเนาถูกต้องและระบุวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลนั้น ๆ ให้ชัดเจน หากแอปฯ นั้น ๆ มีการขอข้อมูลมากกว่าที่จำเป็น ก็ควรจะรีบทำการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแอปฯ และผู้ให้บริการสินเชื่อในทันที


6.
จำกัดวงเงินแต่ละวัน


     แอปกู้เงินผิดกฎหมาย มักจะมีการจำกัดวงเงินในแต่ละวันอยู่ที่ 2,000-4,000 บาท เพราะมิจฉาชีพเหล่านี้รู้อยู่แล้วว่า หากเป็นคนที่เดือดร้อนเรื่องเงินจริง ๆ ไม่ว่าจะเงินเท่าไหร่ก็จะตัดสินใจกู้อยู่ดี 

บทความ

3 หลักการ…

3 หลักการ ในการแก้หนี้ให้ได้ผลยั่งยืน

การแก้หนี้ที่เหมาะสมเพื่อให้การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ มี 3 องค์ประกอบสำคัญ คือ

1.ทำอย่างครบวงจร

       ให้เหมาะกับลักษณะและสาเหตุของปัญหาในแต่ละช่วงของการเป็นหนี้ ตั้งแต่ก่อนเป็นหนี้ กำลังจะเป็นหนี้ ระหว่างเป็นหนี้ และเมื่อประสบปัญหาการชำระหนี้ เพื่อกันปัญหาวนซ้ำเป็นงูกินหาง

2.ทำถูกหลักการ

       มีแนวทางที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ รู้ว่าอะไรควรทำ และไม่ควรทำ รวมถึงทำในเวลาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงหรือผลเสียในระยะยาว ดังนี้

แก้ให้ตรงจุด เพราะการทำมาตรการแบบเหวี่ยงแห/เป็นวงกว้างนานเกินไป จะทำให้สถาบันการเงินไม่สามารถนำทรัพยากรไปช่วยผู้ที่เดือดร้อนหนักกว่าได้ และต้องแก้ให้เหมาะกับสถานการณ์/ปัญหาของลูกหนี้ เช่น การให้สินเชื่อเพิ่มเพื่อแก้ปัญหารายได้ในช่วงวิกฤต แม้มีข้อดีที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระยะสั้น แต่ต้องระวังการเกิดปัญหาหนี้ที่อาจชำระไม่ได้ในระยะยาว กลายเป็นหนี้เรื้อรังหรือหนี้เสีย ทำให้เข้าถึงสินเชื่อในระบบยากขึ้น

ไม่สร้างภาระเพิ่มให้ลูกหนี้ เช่น พักชำระหนี้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เป็นเพียงการผลักปัญหาไปในอนาคต เพราะหนี้เดิมไม่ลดและมีภาระเพิ่มจากดอกเบี้ยที่เดินอยู่ตลอดด้วย รวมถึงอาจเสียวินัยทางการเงินเพราะชินกับการไม่ต้องจ่ายหนี้และอาจก่อหนี้เพิ่ม ขณะที่เจ้าหนี้อาจมีสภาพคล่องไม่พอปล่อยสินเชื่อใหม่ หรือช่วยเหลือลูกหนี้ที่เดือดร้อนจริง ๆ

ไม่ลดโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อ เช่น ลบประวัติข้อมูลเครดิต ทำให้เจ้าหนี้ไม่มีประวัติลูกหนี้ในการพิจารณาสินเชื่อ จนไม่กล้าปล่อยกู้ ทำให้ลูกหนี้เข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ยากขึ้น หรือหากกู้ได้ จะโดนคิดดอกเบี้ยแพง

ตั้งใจจริง เจ้าหนี้ต้องร่วมใจช่วยเหลือและแก้ปัญหาให้เหมาะกับลูกหนี้แต่ละราย และลูกหนี้ต้องลุกขึ้นมาแก้ปัญหาหนี้ ปฏิบัติตามสัญญาใหม่อย่างมีวินัย และบริหารเงินอย่างถูกต้อง

3.ต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน

       เพื่อแก้ปัญหาหนี้ให้ครบทุกประเภท ทั้งหนี้ที่ ธปท. กำกับดูแล ซึ่งคิดเป็น 4 ใน 5 ของหนี้ครัวเรือนในระบบ ได้แก่ หนี้ที่อยู่กับ ธพ. SFIs และนอนแบงก์ และหนี้ส่วนอื่น เช่น หนี้สหกรณ์ หนี้ กยศ. และหนี้กองทุนหมู่บ้าน รวมถึงหนี้นอกระบบ จึงต้องการความร่วมมือจากผู้กำกับดูแลหนี้ประเภทต่าง ๆ รวมทั้งภาครัฐอื่น ๆ เจ้าหนี้ภาคเอกชน และที่สำคัญตัวลูกหนี้เอง เพื่อให้การแก้หนี้เกิดขึ้นได้ครบวงจร และเห็นผลตามเป้าหมายของการแก้หนี้ให้ยั่งยืน ที่สำคัญ ต้องแก้ปัญหาจากมิติด้านรายได้ และรัฐสวัสดิการ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการเกษตร เช่น ชลประทานการเกษตร และประกันภัยพืชผล ควบคู่ด้วย 

ขอบคุณเนื้อหาดีๆจาก 3 หลักการ ในการแก้หนี้ให้ได้ผลยั่งยืน | Financial Landscape (bot.or.th)

ข่าวสารและกิจกรรม

🎉ชูเกียรต…

🎉ชูเกียรติลิสซิ่ง จัดกิจกรรมอบรมเรียนรู้ 🎉

ส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับชุมชน ในโครงการ
“ชูเกียรติ อาสา”
ให้กับชุมชนบ้านนาปง
ต.ห้วยยูง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่

บทความ

เซ็นรับรอ…

เซ็นรับรองสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน อย่างไรให้ปลอดภัย

1. ถ่ายแค่หน้าบัตรประชาชน ห้ามถ่ายหลังบัตร เพราะด้านหลังมีรหัสบัตร เลขหลังบัตร เรียกว่า Laser ID ใช้ยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงินทั้งหมดได้อยู่แล้ว

2. ขีดเส้นคร่อม 2 เส้นบนตัวบัตร แต่ห้ามขีดทับรูปหน้าเรา เนื่องจากรูปที่ถ่ายเอกสารหน้าเราจะไม่ชัดอยู่แล้ว ถ้าขีดเส้นทับจะทำให้การยืนยันตัวตนยากขึ้น ขีดทับข้อมูลสำคัญ ๆ เพื่อให้การแอบอ้างหรือปลอมแปลงยากขึ้นเท่านั้นเอง

3. ให้เขียนว่า “ใช้สำหรับ….เท่านั้น” ระหว่างเส้นคร่อมตามภาพได้เลย ในช่องว่างเราสามารถใส่วัตถุประสงค์การนำไปใช้งานของเราให้ชัดเจน เช่น ใช้สำหรับสมัครงานเท่านั้น, ใช้สำหรับยืนยันตัวตนในการฉีดวัคซีนเท่านั้น ฯลฯ เพื่อที่มิจฉาชีพจะได้ไม่สามารถนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์

4. เมื่อเขียนวัตถุประสงค์ที่ใช้แล้ว อย่าลืมเขียนสัญลักษณ์ * หรือ # ปิดหัว-ท้าย เพื่อป้องกันการเติมข้อความ

5. เขียน วัน/เดือน/ปี ที่เซ็นลงไป เพราะถ้าเราไม่เขียน มิจฉาชีพจะสามารถเอาเอกสารของเราที่เราอาจจะเคยทิ้งไปนานจนลืมแล้ว กลับมาใช้ได้

6. เขียน “สำเนาถูกต้อง” พร้อมกับเซ็นชื่อของตัวเอง โดยวิธีเซ็นที่ปลอดภัยคือเซ็นทับไปบนบัตรได้เลย

ตัวอย่างการเซ็นรับรองสำเนาที่ถูกต้อง