
อยากเอาที่ดินไปจำนำ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
โฉนดที่ดินเป็นเอกสารสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่กรมที่ดินออกให้ เพื่อบ่งบอกว่าบุคคลนั้นมีสิทธิทำอะไรก็ได้บนที่ดินผืนนั้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งโฉนดที่ดินยังสามารถนำมาเปลี่ยนเป็นเงินก้อนได้กับสินเชื่อจำนำโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง หรือจะเป็นสินเชื่อโฉนดที่ดินเปล่าก็ได้เช่นกัน เมื่อเริ่มขาดสภาพคล่องทางการเงินหรือต้องการหาสินเชื่อเงินด่วนถูกกฎหมาย เพียงนำโฉนดที่ดินปลอดภาระมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ ก็ได้เงินก้อนไปใช้จ่ายฉุกเฉินในทันที มาทำความเข้าใจกันว่า แล้วโฉนดแบบไหนเอาไปจำนำได้บ้าง?
การจำนำโฉนดที่ดินคืออะไร
การจำนำโฉนดที่ดิน คือ การนำโฉนดที่ดินปลอดภาระ หรือโฉนดที่ดินที่ทำการโอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้โดยไม่ต้องไปจดจำนองที่กรมที่ดิน เป็นการเปลี่ยนโฉนดที่ดินเป็นเงินทุน เงินก้อน ได้ง่าย ๆ เพื่อนำไปใช้จ่ายยามฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที
การจำนำโฉนดที่ดินต่างกับการจำนองบ้าน จํานองที่ดินยังไง?
การจำนำโฉนดที่ดิน เจ้าของที่ดินจะนำโฉนดไปวางไว้เป็นหลักประกันเงินกู้ แต่ยังคงมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น เมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว เจ้าของจะได้รับโฉนดที่ดินคืน โดยในช่วงระยะเวลาที่จำนำนั้น เจ้าของจะไม่สามารถนำที่ดินไปจำหน่ายจ่ายโอนได้
ส่วนการจำนองบ้าน จํานองที่ดิน คือ การที่เจ้าของจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นให้แก่สถาบันการเงินชั่วคราวในช่วงระยะเวลาการจำนอง ทำให้สถาบันการเงินเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินที่จำนอง เมื่อชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว กรรมสิทธิ์ถึงจะโอนกลับคืนสู่เจ้าของ
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนจำนำที่ดิน
- ตรวจสอบกรรมสิทธิ์ที่ดิน
สิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็คือ ตรวจสอบว่าเราเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินจริงหรือไม่ครับ เพราะหากเราไม่ใช่เจ้าของ หรือถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับคนอื่น จะไม่สามารถจำนำได้แบบง่าย ๆ ต้องมีเอกสารแสดงสิทธิ์ชัดเจน และในกรณีที่มีเจ้าของร่วม ต้องมีหนังสือยินยอมจากทุกคนที่มีชื่อในโฉนด
- เตรียมเอกสารให้ครบ
แม้ว่าเราจะคิดว่าแค่ถือโฉนดไปก็พอแล้ว แต่ความจริงยังมีเอกสารอื่น ๆอีกครับ ที่มักต้องใช้ร่วมด้วย เช่น
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- โฉนดที่ดินฉบับจริง
- เอกสารการเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)
- เอกสารประกอบอื่น ๆ เช่น สัญญากู้เงิน ใบค้ำประกัน เป็นต้น
- เปรียบเทียบแหล่งเงินทุน
ไม่ใช่ว่าทุกแหล่งเงินทุนจะให้เงื่อนไขที่เหมือนกันนะครับ บางที่ให้วงเงินสูงแต่ดอกเบี้ยสูงมาก บางที่ดอกเบี้ยต่ำแต่ต้องใช้เอกสารเยอะ หรืออาจต้องใช้ผู้ค้ำประกันควรเปรียบเทียบข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น
- ธนาคารของรัฐ
- สหกรณ์ออมทรัพย์
- บริษัทเงินกู้ถูกกฎหมาย
- บุคคลทั่วไป (แต่ต้องระวัง)
ดูทั้งในเรื่องของวงเงินที่ให้ ดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่อาจซ่อนอยู่
- อ่านสัญญาให้ละเอียดที่สุด
สัญญาคือหัวใจของการจำนำ ถ้าไม่อ่านให้ละเอียด หรือไม่เข้าใจเงื่อนไข อาจทำให้เสียเปรียบได้ครับ หรือถูกยึดที่ดินโดยไม่รู้ตัวตรวจสอบให้แน่ใจว่าสัญญาระบุชัดเจนในเรื่องเหล่านี้
- จำนวนเงินกู้
- ดอกเบี้ยที่เรียกเก็บ
- วิธีการผ่อนชำระ
- วันครบกำหนดชำระ
- เงื่อนไขกรณีผิดนัด
- สิทธิของทั้งสองฝ่าย
หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายก่อนเซ็นชื่อครับ
- วางแผนการเงินให้ดี
เมื่อเรานำที่ดินนั้นไปจำนองแล้ว หมายความว่าเรานั้นได้มีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น ในการวางแผนการเงินที่ดี ไม่ใช่แค่ว่าเราได้เงินก้อนหนึ่งมาแล้วก็จบครับ แต่เราควรจะต้องมองการณ์ไกล และมีแผนรับรองทางเกินว่า เมื่อนำที่ดินไปจำนำแล้ว หมายความว่ามีหนี้ก้อนหนึ่งที่ต้องชำระในอนาคต ดังนั้นอย่ามองแค่ได้เงินมาก้อนหนึ่งแล้วจบครับ ควรมีแผนการเงินรองรับว่า
- จะหาเงินจากไหนมาใช้คืน?
- ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการชำระ?
- หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน จะจัดการยังไง?
การวางแผนล่วงหน้าไม่เพียงช่วยให้ไม่พลาดนัด แต่ยังช่วยให้รักษาทรัพย์สินอันมีค่าไว้ได้อีกด้วย