หากเติมน้ำมันผิด รถของคุณจะมีผลอย่างไร

       การเติมน้ำมันผิดประเภทอาจทำให้รถดับ, สตาร์ทไม่ติด, เครื่องยนต์มีเสียงดังผิดปกติ, หรือเร่งไม่ขึ้น และหากขับต่อไปอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายรุนแรง เช่น หัวฉีดอุดตัน, ปั๊มเชื้อเพลิงเสียหาย, หรือชิ้นส่วนอื่นๆ ในเครื่องยนต์เสียหายจนต้องเสียค่าซ่อมแพง หากทราบว่าเติมผิดทันที ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยเด็ดขาด และควรให้ช่างมาสูบน้ำมันที่ไม่ถูกต้องออกจากถังให้หมดก่อน

ผลกระทบเมื่อเติมน้ำมันผิดประเภท

  • เครื่องยนต์ดับและสตาร์ทไม่ติด:
    • เครื่องยนต์ดีเซลเติมเบนซิน: การจุดระเบิดที่ผิดปกติจะทำให้เครื่องยนต์สะดุดและดับลง 
    • เครื่องยนต์เบนซินเติมดีเซล: น้ำมันดีเซลจะไปเคลือบหัวเทียนและทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ เครื่องยนต์อาจดับและสตาร์ทไม่ติด 
  • อาการผิดปกติขณะขับขี่:
    • เสียงเครื่องยนต์ดัง: โดยเฉพาะเมื่อเร่งเครื่อง 
    • อัตราเร่งช้าลง: รถจะรู้สึกอืดและไม่มีแรง 
    • มีควันดำผิดปกติ: ออกจากท่อไอเสีย 
    • ไฟเตือนเครื่องยนต์โชว์: ที่หน้าปัด 
  • ความเสียหายต่อระบบเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์:
    • หัวฉีดอุดตัน: น้ำมันดีเซลมีความหนืดกว่า และน้ำมันเบนซินทำให้คุณสมบัติหล่อลื่นของดีเซลลดลง 
    • ปั๊มเชื้อเพลิงเสียหาย: การเสียดสีที่รุนแรงขึ้นทำให้ปั๊มเชื้อเพลิงทำงานผิดปกติและเสียหายได้ 
    • ชิ้นส่วนอื่นๆ เสียหาย: หากส่วนผสมที่ไม่ถูกต้องไหลเวียนไปทั่วระบบ อาจส่งผลให้ลูกสูบหรือฝาสูบเสียหายได้ 

สิ่งที่ควรทำหากเติมน้ำมันผิด

  1. ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์:  หากเพิ่งเติมน้ำมันผิดมา ห้ามบิดกุญแจสตาร์ทเด็ดขาด เพราะจะทำให้น้ำมันถูกสูบเข้าไปในระบบทันที 
  1. ติดต่อช่างทันที:  แจ้งพนักงานปั๊มให้ติดต่อช่างมาสูบน้ำมันที่ผิดออกจากถังให้หมด 
  1. เติมน้ำมันที่ถูกต้อง:  เมื่อน้ำมันเก่าถูกสูบออกแล้ว ให้เติมน้ำมันที่ถูกต้องลงไปในถังประมาณ  5−10ลิตร 
  1. สตาร์ทเครื่องยนต์และตรวจสอบ:  สตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้สักพักที่รอบเดินเบา และสังเกตอาการผิดปกติหรือไฟเตือนต่างๆ หากไม่มีความผิดปกติ สามารถขับได้ตามปกติ