รวมวิธีป้องกันและตรวจสอบแอป ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

     เนื่องจากมิจฉาชีพในปัจจุบัน สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกับธนาคาร หรือผู้ให้บริการสินเชื่อได้ ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาแอปพลิเคชันที่ให้บริการสินเชื่อออนไลน์ แต่ไม่อยากถูกซ้ำเติมความเดือดร้อนเรื่องเงินจากการโดนมิจฉาชีพหลอก เรารวมวิธีป้องกันและตรวจสอบแอป

1. ไม่โหลดแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ 


     อย่างที่บอกไปว่า มิจฉาชีพสามารถสร้างแอปที่มีความเหมือนหรือคล้ายคลึงกับแอปของธนาคารออกมาได้ ดังนั้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจดาวน์โหลดควรจะมีการอ่านรายละเอียดก่อนติดตั้งให้ดีก่อน นอกจากนี้ยังสามารถเช็กได้จากรีวิวของผู้ใช้งานแอปนั้น ๆ ก็ได้เช่นกัน 


2.
ไม่โหลดแอปจากลิงก์ หรือข้อความทาง SMS หรือ อีเมล


     อีกหนึ่งวิธีที่มิจฉาชีพใช้ในการหลอกลวงเงินก็คือ การส่งข้อความมาทาง SMS หรืออีเมล โดยมีข้อความที่ดึงดูดใจ เช่น เงินด่วนดอกเบี้ยถูก เงินด่วนไม่ต้องมีคนค้ำ ได้เงินเร็วใน 30 นาที เป็นต้น พร้อมกับแนบลิงก์ให้คุณคลิกเพื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน หากคุณเจอข้อความลักษณะนี้ห้ามคลิกลิงก์เด็ดขาด เพราะธนาคารหรือสถาบันการเงินส่วนใหญ่ จะไม่มีนโยบายเสนอสินเชื่อผ่านข้อความ และลิงก์นั้นอาจทำให้มิจฉาชีพเข้าถึงเงินในบัญชีของคุณได้อย่างง่ายดาย 


3.
ไม่โหลดแอปนอก Store ทางการ (เช่น Apple Store ,Google play)


    เนื่องจากแอปที่อยู่นอก Store ทางการจะไม่ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่มีการบอกรายละเอียดของแอปนั้น ๆ รวมถึงไม่มีการสแกนมัลแวร์ที่อันตรายต่อข้อมูลของเรา ดังนั้น หากคุณถูกเชื้อเชิญให้โหลดแอปจากนอก Store ทางการอย่าง Apple Store หรือ Google Play ให้หยุดความคิดนั้นไว้ทันที

4. ไม่ใช้ Wi-Fi สาธารณะที่ไม่รู้จัก


     การเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะที่ไม่รู้จัก จะทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ของคุณมีความเสี่ยงที่มิจฉาชีพจะเข้าถึงได้ง่าย เพราะเมื่อคุณเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับเครือข่าย Wi-Fi นั่นหมายความว่า คุณกำลังส่งข้อมูลส่วนตัวของคุณผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันมือถือ ซึ่งจะทำให้แฮกเกอร์หรือมิจฉาชีพสามารถเจาะระบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้


5.
ระวังการกรอกข้อมูลสำคัญ


     การสมัครสินเชื่อผ่านแอปกู้เงินถูกกฎหมาย จะมีการขอเอกสารข้อมูลยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน และเอกสารข้อมูลแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน เป็นต้น ส่วนเอกสารการเดินบัญชีหรือ Statement จะขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินว่าต้องใช้ประกอบการพิจารณาหรือไม่ โดยผู้ขอสินเชื่อควรเซ็นสำเนาถูกต้องและระบุวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลนั้น ๆ ให้ชัดเจน หากแอปฯ นั้น ๆ มีการขอข้อมูลมากกว่าที่จำเป็น ก็ควรจะรีบทำการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแอปฯ และผู้ให้บริการสินเชื่อในทันที


6.
จำกัดวงเงินแต่ละวัน


     แอปกู้เงินผิดกฎหมาย มักจะมีการจำกัดวงเงินในแต่ละวันอยู่ที่ 2,000-4,000 บาท เพราะมิจฉาชีพเหล่านี้รู้อยู่แล้วว่า หากเป็นคนที่เดือดร้อนเรื่องเงินจริง ๆ ไม่ว่าจะเงินเท่าไหร่ก็จะตัดสินใจกู้อยู่ดี